หัวข้องานวิจัยในชั้นเรียน : การแก้ปัญหาการอ่านไม่ค่อยออก และอ่านไม่คล่องโดยการใช้
แบบฝึกการอ่าน และแบบประเมินผลการอ่านออกเสียงของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2
ชื่อผู้วิจัย : นางศิริวรรณ อุปสิทธิ์ ตำแหน่ง ครู รับเงินเดือนอันดับคศ. 1
ระดับการศึกษา : ปริญญาตรี ( เอกการประถมศึกษา ) สถาบันราชภัฏพระนคร
ปีการศึกษา : 2553
บทคัดย่อ
งานวิจัยการแก้ปัญหาการอ่านไม่ค่อยออก และไม่คล่องโดยการใช้แบบฝึกการอ่าน และแบบประเมินผลการอ่านออกเสียงของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 94 คน โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ซึ่งคัดเลือกจากนักเรียนที่มีปัญหาในการอ่านออกเสียงที่ไม่ค่อยได้ ไปจนถึงอ่านไม่คล่อง จำนวน 5 คน จากทั้งหมด 18 คน
ผลการวิจัยพบว่า
นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีการอ่านออกเสียงไม่ค่อยได้ และบางคนอ่านได้แต่ไม่คล่อง บางคำต้องสะกดก่อนอ่าน เมื่อได้พัฒนานักเรียนโดยการใช้แบบฝึกการอ่าน และแบบประเมินผลการอ่านออกเสียง โดยให้นักเรียนฝึกการอ่านออกเสียงแบบทดสอบละ 5 วัน ซึ่งนักเรียนต้องนำไปอ่านให้ผู้ปกครองฟังที่บ้านด้วยเสมอ แล้วมาทดสอบการอ่านกับครูเพื่อทำการประเมินการอ่านในแต่ละชุดว่านักเรียนมีพัฒนาการในการอ่านอยู่ในเกณฑ์ใด ผลปรากฏว่า เมื่อเฉลี่ยเพื่อหาเกณฑ์การประเมินคุณภาพการอ่านของนักเรียน นักเรียนส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ร้อย 60 ขึ้นไป ยกเว้นเพียง เด็กชายจักรชัย ที่มีผลการประเมินเฉลี่ยร้อยละ 50 ทั้งนี้เพราะอ่านไม่ค่อยออก แต่สรุปโดยรวมนักเรียนมีพัฒนาการอ่านที่ดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ
ชื่อวิจัย การแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนประชาภิบาล เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย นางวิไลวรรณ เสือสิ ครูรับเงินเดือนอันดับคศ.2
ปีการศึกษา 2553
ที่ปรึกษาวิจัย นายเนธิชัย ปานสุวรรณ ครูผู้ช่วยรับเงินเดือนอันดับ ครูผู้ช่วย
บทคัดย่อ
จากการสังเกตในขณะที่เรียนวิชาภาษาไทย ในชั่วโมงแรกของการเริ่มเรียน ครูทดสอบให้นักเรียนอ่านบทเรียนเป็นรายบุคคลจึงพบว่า มีนักเรียนไม่สามารถอ่านหนังสือได้เลยจึงได้ทำการวิจัยโดยทำแบบทดสอบพยัญชนะไทย 44 ตัว โดยให้ฝึกอ่านดังนี้
แบบทดสอบชุดที่ 1 อ่านพยัญชนะ ครั้งที่ 1 นักเรียนอ่านได้ดังนี้ จาก 44 ตัว อ่านได้ 40 ตัว ตัวที่อ่านไม่ได้ส่วนมากจะเป็น ฎ, ฏ, ษ, ฐ แบบทดสอบชุดที่ 1 ทำการทดสอบถึง 8 ครั้ง ครั้งที่ 8 นักเรียนจึงอ่านได้ถูกต้องหมดทุกตัว นักเรียนยังอ่านได้ไม่คล่องเท่าที่ควร
แบบทดสอบชุดที่ 2 การอ่านสระจากการทดสอบทั้งหมด 12 ครั้ง ครั้งแรก จะอ่านได้ แต่ อะ, อา, อิ, อี, อุ, อู เท่านี้ สระที่เหลือนักเรียนยังอ่านไม่ได้ จึงทำการอ่านรูปสระอยู่โดยใช้เวลาฝึกทั้งหมด 12 ครั้งด้วยกัน แต่นักเรียนก็อ่านได้ยังไม่คล่องเท่าที่ควร ครูจึงทำการฝึกอ่านสระและพยัญชนะให้ได้แม่นยำก่อนจึงจะฝึกให้อ่านเป็นคำ แต่นักเรียนก็ยังไม่สามารถอ่านได้หมด
แบบทดสอบชุดที่ 3 ลองฝึกให้อ่านเป็นคำทั้งหมดมี 56 คำ ต่อการทำวิจัยใน 3 เดือน นักเรียนสามารถอ่านได้เฉพาะคำที่ไม่มีตัวสะกดและง่ายๆ ส่วนตัวที่มีตัวสะกดจะอ่านได้เฉพาะคำที่สะกดในมาตรา แม่ กง , แม่ กม , แม่ กบ , แม่ กด และเป็นตัวสะกดที่ตรงมาตรามีทั้งหมด 20 คำ และอ่านแบบสะกดคำก่อนทุกครั้งที่เหลือจะเริ่มฝึกอ่านอีกครั้งในเทอม 2
หัวข้องานวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาส่งเสริมรักการอ่าน โดยการเล่านิทาน ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 โรงเรียน
ประชาภิบาล
ผู้วิจัย นางชื่นชีวรรณ พระชัยบูลย์ ตำแหน่ง ครู รับเงินเดือนอันดับ คศ.2
ระดับการศึกษา ปริญญาตรีครุศาตรบัณฑิตวิชาเอก การศึกษาปฐมวัย สถาบันราชภัฎพระนคร
ปีการศึกษา 2553
บทคัดย่อ
รายงานผลการวิจัยการพัฒนาส่งเสริมรักการอ่าน โดยการเล่านิทาน ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกให้นักเรียนให้มีนิสัยรักการอ่าน ฝึกทักษะการฟัง มองภาพและตัวหนังสือในนิทาน สามารถเล่าเรื่องราวให้ผู้อื่นเข้าใจได้ สร้างผลงานด้วยการวาดภาพตามจินตนาการจากเรื่องราวที่ได้ฟัง ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และมีทักษะในการแสวงหาความรู้กระตือรือร้นสนใจชอบอ่านหนังสือต่างๆให้ฟัง ปลูกจิตสำนึกให้มีนิสัยรักการอ่านมากยิ่งขึ้น
ประชากร คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 จำนวน 34 คน โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 จำนวน 34 คน โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
ผลการวิจัย พบว่านักเรียนจำนวน 34 คน มีพฤติกรรมแสดงออกชอบอ่านหนังสือ สนใจเข้ามุมรักการอ่าน เปิดอ่านหนังสือและดูรูปภาพ สนทนาเล่าเรื่องจากภาพให้เพื่อนฟัง สามารถวาดภาพจากเรื่องที่อ่านถ่ายทอดความคิดและจินตนาการมีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น สนทนาเล่าเรื่องราวให้ผู้อื่นเข้าใจได้มีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข มีนิสัยรักการอ่านส่งผลต่อการเรียนในระดับสูงต่อไป
ชื่องานวิจัย : การศึกษาการปรับพฤติกรรมความรับผิดชอบในการทำงานของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน
กรุงเทพมหานคร โดยการใช้การเสริมแรงทางบวก
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวสาคร มีกลิ่น
ระดับการศึกษา : การศึกษาบัณฑิต (สังคมศึกษา) มศว.บางเขน
ที่ปรึกษา : นางสาวปรียาภรณ์ ศรีวะรมย์
ปีการศึกษา : 2553
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการปรับพฤติกรรมความรับผิดชอบในการทำงานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
โดยการใช้การเสริมแรงทางบวก
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คัดเลือกนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนประชาภิบาล ที่มีพฤติกรรมการขาดความรับผิดชอบในการทำงานจำนวน 4 คน
ผลการวิจัย
การให้แรงเสริมทางบวกคือ การให้ดาว สามารถลดพฤติกรรมการขาดความรับผิดชอบในการทำงานของนักเรียน ทั้ง 4 คนได้เป็นอย่างดี เพราะนักเรียนมีความพึงพอใจที่ได้รับดาวเป็นแรงเสริม มีความกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น เพื่อจะได้รางวัลหรือคำชมเชย จึงสามารถนำวิธีการนี้ไปใช้กับการปรับพฤติกรรมของนักเรียนคนอื่นๆ ได้ต่อไป
ชื่องานวิจัย : การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมทักษะด้านการฟัง การมีวินัย จากการเล่านิทานและเกม ชั้นอนุบาลปีที่1/2
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวทิพย์กมล มั่งทองคำ
ระดับการศึกษา : ครุศาสตรบัณฑิต ( การศึกษาปฐมวัย )
ที่ปรึกษางานวิจัย: นางจินตนา บุญไพโรจน์
ปีการศึกษา : 2553
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อฝึกพื้นฐานทักษะการฟัง การมีวินัย จากกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยการเล่านิทานและการเล่นเกม เพื่อสร้างเสริมพัฒนาการเด็กทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา จากตัวละครในนิทานที่เป็นตัวแบบที่หล่อหลอม พฤติกรรมและบุคลิกภาพของเด็ก ให้มีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ส่วนการเล่นเกมนั้น ส่งเสริมพฤติกรรมของเด็กทางด้านสังคม เช่น ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การแบ่งปัน การร่วมมือ พฤติกรรมการช่วยเหลือ ทำให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะทางสังคมที่หลากหลาย เด็กได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน จากแผนการจัดประสบการณ์หลักสูตรสถานศึกษา / หลักสูตรการจัดการศึกษา ของโรงเรียนประชาภิบาล
วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาบทเรียนการ์ตูน เรื่องการบวกทศนิยม การลบทศนิยม
และการคูณทศนิยมสำหรับใช้ในการสอนซ่อมเสริมระดับ
ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน
กรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย นางสาวปรียาภรณ์ ศรีวะรมย์ ครู รับเงินเดือนในอันดับ คศ.1
ระดับการศึกษา ครุศาสตร์บัณฑิต (ค.บ.) ( คณิตศาสตร์)
ปีการศึกษา 2553
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาทักษะการแยกตัวประกอบของจำนวนนับของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ประชากรจำนวน 119 คน และ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 6 คน
จากผลการใช้บทเรียนการ์ตูนที่พัฒนาขึ้น ปรากฎว่านักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในเรื่องทศนิยมสูงขึ้น ซึ่งพิจารณาจากการสังเกตและทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนจากบทเรียนการ์ตูน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะบทเรียนการ์ตูนเป็นนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการบวก การลบ และการคูณทศนิยม
ชื่อวิจัย การอ่านค่าตัวโน้ตสากลจากตารางโน้ตไทย เพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่เข้าใจค่าของตัวโน้ตสากลของ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย นายเนธิชัย ปานสุวรรณ ครูผู้ช่วยรับเงินเดือนอันดับครูผู้ช่วย
ปีการศึกษา 2553
ที่ปรึกษาวิจัย นางสาวเมธาวรินทร์ แตนต่อ ครูรับเงินเดือนอันดับ คศ.1
บทคัดย่อ
การสอนอ่านโน้ตสากล ประสบปัญหาคือนักเรียนไม่เข้าใจอัตราจังหวะหรือค่าของตัวโน้ตแต่ละตัว ทำให้ไม่สามารถอ่านโน้ตบนบรรทัด 5 เส้นได้ อันเนื่องมาจากความไม่คุ้นชิน และการมองโน้ตแต่ละตัวบนบรรทัด 5 เส้นไม่ชัดเจน ผู้วิจัยจึงได้แก้ปัญหาโดยการนำโน้ตสากล บรรจุลงตารางโน้ตแบบไทย เนื่องจากนักเรียนมีความเข้าใจการอ่านโน้ตแบบไทยในระดับค่อนข้างดี จึงทำให้นักเรียนมีความเข้าใจอัตราจังหวะของโน้ตสากลได้ง่ายขึ้น เข้าใจจังหวะลักษณะต่างๆได้ง่ายและดีขึ้น และเมื่อนักเรียนเข้าใจอัตราจังหวะและค่าของตัวโน้ตแล้ว จึงค่อยนำไปสู่การอ่านโน้ตบนบรรทัด 5 เส้นต่อไป
หัวข้องานวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาส่งเสริมรักการอ่าน โดยการเล่านิทาน ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1
โรงเรียนประชาภิบาล
ผู้วิจัย นางชื่นชีวรรณ พระชัยบูลย์ ตำแหน่ง ครู รับเงินเดือนอันดับ คศ.2
ระดับการศึกษา ปริญญาตรีครุศาตรบัณฑิตวิชาเอก การศึกษาปฐมวัย สถาบันราชภัฎพระนคร
ปีการศึกษา 2553
บทคัดย่อ
รายงานผลการวิจัยการพัฒนาส่งเสริมรักการอ่าน โดยการเล่านิทาน ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกให้นักเรียนให้มีนิสัยรักการอ่าน ฝึกทักษะการฟัง มองภาพและตัวหนังสือในนิทาน สามารถเล่าเรื่องราวให้ผู้อื่นเข้าใจได้ สร้างผลงานด้วยการวาดภาพตามจินตนาการจากเรื่องราวที่ได้ฟัง ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และมีทักษะในการแสวงหาความรู้กระตือรือร้นสนใจชอบอ่านหนังสือต่างๆให้ฟัง ปลูกจิตสำนึกให้มีนิสัยรักการอ่านมากยิ่งขึ้น
ประชากร คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 จำนวน 34 คน โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 จำนวน 34 คน โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
ผลการวิจัย พบว่านักเรียนจำนวน 34 คน มีพฤติกรรมแสดงออกชอบอ่านหนังสือ สนใจเข้ามุมรักการอ่าน เปิดอ่านหนังสือและดูรูปภาพ สนทนาเล่าเรื่องจากภาพให้เพื่อนฟัง สามารถวาดภาพจากเรื่องที่อ่านถ่ายทอดความคิดและจินตนาการมีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น สนทนาเล่าเรื่องราวให้ผู้อื่นเข้าใจได้มีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข มีนิสัยรักการอ่านส่งผลต่อการเรียนในระดับสูงต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น